พระครูสังวรานุโยค (หลวงพ่อช่อ ปญญาทีปมหาเถระ)
วัดโคกเกตุบุญญสิริ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
หลวงพ่อช่อ พระเกจิขวัญใจคนยาก
ชาวสมุทรสงครามส่วนใหญ่ต่างรู้จักชื่อเสียงเรียงนามเป็นอย่างดี “พระครูสังวรานุโยค” หรือ”หลวงพ่อช่อ ปญฺญาทีปมหาเถระ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดโคกเกตุบุญญสิริ ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ปัจจุบันอายุ 86 พรรษา 64
ท่านเป็นพระผู้เฒ่าที่คงแก่เรียน ด้วยยึดคติประจำใจว่า (คนเราทุกคนไม่มีใครแก่เกินเรียน) ปัจจุบันถึงหลวงพ่อช่อจะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังคงปฏิบัติกิจสงฆ์ลงสวดมนต์ทำวัตรไม่เคยขาดทำไม่ได้ก็คือการบิณฑบาต เพราะด้วยสภาพร่างกายที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่จะลงศาลาฉันภัตตาหารร่วมกับพระภิกษุในวัดตลอด
ภาพที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาคุ้นตา ในช่วงเย็นของทุกวันจะเห็นพระลูกศิษย์เข็นรถ 2 ล้อที่ทำด้วยไม้เก่าๆ จากกุฏิโดยมีหลวงพ่อช่อนั่งยองๆ เพื่อลงไปสวดมนต์ทำวัตรเย็นในอุโบสถ ความแก่ชราและอายุที่มากขึ้นทุกวัน ไม่เป็นอุปสรรคกับความจำของท่านเลย หลวงพ่อช่อยังคงท่องมนต์สวดปาฎิโมกข์ได้แม่นยำ จะเสื่อมไปก็บ้างก็คือดวงตาในการมอง และหูในเรื่องการรับฟัง หากลูกศิษย์อยากสนทนาด้วยต้องพูดจาดังๆ
หลวงพ่อช่อ สนใจทางธรรมตั้งแต่จำความได้ขนาดยังไม่ได้บวชเป็นพระ บิดามารดาก็จะพาเข้าวัดตลอด ฝึกในการท่องบทสวดมนต์ ไม่ซุกซนชอบยิงนกตกปลาฆ่าสัตว์เหมือนเด็กๆ ทั่วไป ประมาณปี พ.ศ.2488 ได้อุปสมบท โดยมีหลวงพ่อชุ่ม เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วได้เรียนและศึกษาพระปริยัติธรรมตลอด เคยได้เข้าไปศึกษาธรรมกับ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งหลวงพ่อสดยกให้เป็นศิษย์โปรด เพราะหลวงพ่อช่อเป็นศิษย์ที่ว่านอนสอนง่ายความจำดีเป็นเลิศ
ปี พ.ศ. 2495 ได้รับบัญชาจากพระผู้ใหญ่ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกเกตุบุญญสิริ ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สืบต่อจากอดีตเจ้าอาวาสเดิม รูปแรกคือ หลวงปู่บุญมี ซึ่งในขณะนั้น เป็นวัดที่ขาดการพัฒนา ไม่มีแม้กระทั่งอุโบสถ ด้วยความเป็นพระนักพัฒนา และมีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธามาก หลวงพ่อช่อได้ปรับพื้นดินบริเวณวัดที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมขังทุกปี ให้เป็นที่สูงพ้นน้ำ เริ่มก่อสร้างอุโบสถ 4 มุก 2 ชั้น ในปี พ.ศ. 2521 ด้วยงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาทเศษ เงินที่นำมาจัดสร้างทุกบาททุกสตางค์ท่านไม่เคยเรี่ยไร ปัจจัยที่หามาได้เกิดจากความศรัทธาของพระพุทธศาสนิกชนทั้งสิ้น นอกจากจะพัฒนาวัดโคกเกตุจนเจริญรุ่งเรืองแล้วท่านยังสร้างวัดบ้านกล้วย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรีควบคู่ไปด้วย
สิ่งที่รับรู้ทั่วกันคือ หลวงพ่อช่อเป็นคนดุ แต่ความจริงท่านเป้นพระที่เมตตาท่านจะเข้มงวดเฉพาะในเรื่องยาเสพติดและการพนันไม่สงเสริมให้เข้ามาแพร่หลายภายในวัด หากเห็นใครเสพหรือขายจะโดนไล่ตะเพิดทันที
การส่งเสริมการเล่าเรียนของพระภิกษุในวัดเป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านเน้นเป็นพิเศษ พระลูกวัดทุกรูปที่อยู่ภายใต้การปกครองต้องเรียนหนังสือ ท่องมนต์ ในทุกวันพระทุกรูปต้องมท่องให้ฟัง หากท่องได้จะได้รับคำชม ส่าวนพระที่ไม่ชอบสวดมนต์ไหว้พระจะอยู่กับท่านไม่ได้ ท่านบอกว่าบางครั้งการอบรมสั่งสอนคน จะพูดคำหวานๆเสมอไม่ดีต้องมีการพูดถูกแพงๆปะปนกันไป
หลวงพ่อช่อ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในเรื่องนำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ มากพุทธคุณเด่นทางด้านเมตตามหานิยม และค้าขาย แทบทุกคืนตลอด 9 เดือน กับ 19 วันท่านไม่เคยว่างเว้นจะต้องนั่งสวดมนต์ท่องบทคาถาปลุกเสกน้ำมนต์ไว้อย่างน้อยวันละ 3 ตุ่มใหญ่เพราะในแต่ละวันจะมีบรรดาลูกศิษย์ลูกหามาขอน้ำมนต์ไปบูชาประพรมร้านค้า ซึ่งได้ผลเป็นที่ประจักษ์นับไม่ถ้วน
ในอดีตท่านเคยได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก นั่งปรกอธิฐานจิตวัตถุมงคลร่วมกับ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง พระอาจารย์ที่โจรร้ายในอดีตที่นามว่า (ตี๋ใหญ่)เลื่อมใสศรัทธาพิเศษปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงพ่อช่อโด่งดังจนเป็นที่แสวงหาของนักสะสม 2 รุ่นถือว่ามีราคาเหรียญหลวงพ่อช่อ ปี 2519 รุ่นผูกพัทธสีมาสร้างประมาณ 20,000เหรียญ ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลศิลป์และพระสมเด็จรุ่นกระสุนแบน และพระของขวัญ
หลวงพ่อช่อ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ขวัญใจคนยาก ใครเดือดร้อนมาได้ฟังเทศนาของท่าน ท่านก็ผ่อนคลายสบายใจ แถมยังได้น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเปรียญเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจไปบูชาด้วย
อ้างอิง : หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2546 คอลัมน์พระเครื่อง หน้า 27