วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พระครูประสาทสังวรคุณ (หลวงพ่ออินทร์ อินทโชโต)

พระครูประสาทสังวรคุณ (หลวงพ่ออินทร์ อินทโชโต)

ผู้ที่ได้ศึกษาในสมถะวิปัสสนากรรมฐาน จนมีความเชี่ยวชาญก็สามารถนําวิชาที่ศึกษามานี้ใช้ประโยชน์เพื่อเกื้อกูลตนเองและคนอื่นได้ อย่างน้อยก็รู้อดีต อนาคตได้เป็นอย่างดีและยิ่งไปกว่านั้นยังทราบด้วยว่าที่ดินตรงไหนได้ฝังของมีค่าไว้และที่สำคัญที่สุดคือท่านมักจะรู้ วันตายของท่านด้วย พระครูประศาสน์สังวรกิจหรือหลวงพ่ออินทร์ อินทโชโต แห่งวัดโบสถ์ ตำบลบ้านเรือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ท่านก็เป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในด้านสมถะวิปัสสนากรรมฐานดีรูปหนึ่ง ตอนที่ท่านจะมรณภาพท่านก็รู้ตัวของท่านดีจึงได้เตรียมการไว้พร้อมทุกประการคือได้ ไปปลูกกุฏิวิปัสสนากรรมฐานในป่าช้า ให้ช่างต่อโลงไว้แล้วสร้างเจดีย์เพื่อเป็นที่บรรจุอัฐิของท่านและไม่นานท่านก็มรณภาพ ตามความเป็นจริงซึ่งก็เป็นเรื่องที่ศิษย์ยานุศิษย์และท่านที่เคารพนับถือยังกล่าวขวัญถึงทุกวันนี้

ประวัติพอสังเขป

พระครูประสาทสังวรคุณ เดิมชื่อว่า อินทร์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้นามฉายาว่า อินทโชโต เกิดเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ปีมะแม พุทธศักราช 2438 ณบ้านเตาเหล็ก หมู่ 4 ตำบลบ้านเรือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของนายแม้น นางศรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน หลวงพ่ออินทร์เป็นบุตรคนสุดท้อง ตามประวัติกล่าวว่าท่านอุปสมบทที่วัดโบสถ์ ตำบลบ้านเกิด เมื่ออุปสมบทแล้วไม่นานชาวบ้านหนองหญ้าปล้อง ได้มานิมนต์ให้ท่านใดเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหญ้าปล้อง ต่อมาวัดโบสถ์ไม่มีเจ้าอาวาสปกครอง เพราะหลวงพ่อหรุ่นเจ้าอาวาสในขณะนั้นได้ลาสิกขาบทเสีย ขุนเลือก ซึ่งเป็นกำนันในสมัยนั้นจึงได้อารธนาหลวงพ่ออินทร์ ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโบสถ์ ท่านก็ได้กลับมาตามความประสงค์ของชาวบ้านเมื่อท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์แล้วท่านก็ทำการปรับปรุงเสนาสนะของวัดขึ้นใหม่เป็นต้นว่าสร้างถนนซอยเข้าวัด สร้างศาลาใหญ่กลางกุฏิและได้บูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุคนอื่นที่ชำรุดทรุดโทรมให้กลับมีสภาพดีขึ้น เป็นที่เจริญตาแก่ผู้ที่ผ่านไปมาจนเป็นที่รู้จักกว้างขวางของประชาชนทั่วไป นอกจากบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆแล้ว ท่านก็ยังเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือ ความทุกข์ร้อนของประชาชนที่ได้มุ่งหน้าไปหาท่านด้วยเรื่องร้อยแปดพันเก้า ประการท่านก็ช่วยเหลือตามความสามารถของท่านเฉพาะวันหนึ่งๆที่ประชาชนไปให้ท่านรดน้ำมนต์และสะเดาะเคราะห์ มีเป็นจำนวน 100 คนแต่ท่านก็ไม่เคยบ่นหรือรู้สึกเหน็ดเหนื่อยในการช่วยเหลือแม้แต่น้อย เพราะความดีของท่านที่เพียบพร้อมไปด้วยเมตตา ชื่อเสียงของท่านจะได้เลื่องลือไปไกล ตอนมาจึงได้รับพระราชทาน สมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูประสาทสังวรคุณ หลวงพ่ออินทร์ได้เคยออกธุดงค์ หลายครั้งเพื่อหาความวิเวกในป่าเพื่อการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานบางครั้งปรากฏว่าทาานต้องผจญกับสัตว์ป่านานานาชนิดและสัตว์เหล่านั้นไม่อาจจะสามารถทำอันตรายแก่ท่านได้ทั้งนี้เพราะท่านมีจิตที่ฝึกไว้แล้ว เป็นอย่างดีไม่มีความสะทกสะท้านในอันตรายที่จะบังเกิดขึ้น ในที่สุดสัตว์ต่างๆก็ล่าถอยไปเองจึงนับได้ว่าท่านเป็นผู้มีวิชา ไสยศาสตร์แก่กล้ารูปหนึ่งในอดีต สาธุชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่ออิน อย่างมาก คือชาวบุคคโล  กรุงเทพมหานคร ปรากฏว่าได้ไปนมัสการท่านอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็ได้จัดผ้าป่าหรือกฐินไปทอดและได้เงินเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าคนจีนและปรากฏว่าทุกคนได้รับแจกของดีจากหลวงพ่อเป็นกรณีพิเศษแม่ว่าพระอินทร์ ่จะมรณะภาพไปแล้วแต่ก็ยังมีคนไปเคารพรูปของท่านที่วัดมีแต่ขาด หลวงพ่ออินทร์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีมหาชนรู้จักอย่างกว้างขวางและในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็มีประชาชนไปมาหาสู่มิได้ขาด  ผู้ที่ไปมาหาท่านถึงได้ขอร้องให้ท่านสร้างพระเครื่องของขลังขึ้นเพื่อจะได้นำไปเคารพบูชาแทนตัวท่าน หลวงพ่ออินทร์จึงได้สร้างเครื่องรางของขลังขึ้นตามคำเรียกร้องของคนเหล่านั้นพระเครื่องรางของขลังที่ท่านได้สร้างในโอกาสต่สงๆ มี พระผง พระกลีบบัว ตะกรุด ผ้ายันต์ และเหรียญ ของดีเหล่านี้ท่านได้เป็นผู้ปลุกเสกเอง ปรากฏว่าได้มีภินิหารเกิดขึ้นแก่ผู้ที่นำไปใช้หลายราย จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่ออินท์ ดังขึ้นอีกมากนอกเหนือจากน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว

ในขณะนี้ท่านได้ป่วยเป็นครั้งที่สองท่านได้ไปสร้างกุฏิวิปัสสนากรรมฐาน ในป่าช้าเพื่อจะได้ทำสมาธิได้เต็มที่พร้อมกันนั้น เหมือนกับว่าท่านรู้ว่าใกล้จะมรณะภาพแล้ว ท่านจึงได้สั่งให้ช่างต่อโลง ขึ้นและให้คนไปหาฟืนมาไว้และสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิท่าน ได้เตรียมไว้พร้อมทุกอย่างต่อมาไม่มานท่านก็มรณภาพ เมื่อพศ 2513 สิริอายุ 74 ปีเศษ ปัจจุบันจึงเหลืออยู่แต่เกียรติคุณของท่านเท่านั้นให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน ที่รู้กาลล่วงหน้า  

อ้างอิง จากหนังสืออภินิหารพระเครื่อง ปี 2517

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น