พระครูวิทยานุโยค (พึ่ง) วัดรางบัว เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ
หลวงพ่อผู้มีอภินิหารปรากฏแก่สายตามาแล้ว แต่ท่านไม่มีชื่อเสียงทางด้านเป็นพระเกจิอาจารย์ประชาชนส่วนใหญ่ที่นับถือท่านก็เพราะความจริงที่ท่านมีอยู่คือเป็นพระที่พูดจริงทำจริงแม้แต่นักเลงก็เกรงกลัวท่าน ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่พระลูกวัดได้ใช้ปืนยิงแต่กระสุนปืนไม่ออก เหรียญที่ท่านได้สร้างขึ้นมีนายตำรวจนำไปทดลองยิงก็ยิงไม่ออก เช่นเดียวกันที่ท่านมีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะอภินิหารที่มีอยู่ในตัวท่าน พระครูวิทยานุโยค(ุพึ่ง) อดีตเจ้าอาวาสวัดรางบัว เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมพ. ศ. 2408 ณ บ้านแขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของนายชม นางส้มแป้น มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 7 คน พี่ชายชื่อนิ่มบวชเป็นพระเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ส้ม เมื่ออายุพอสมควรที่จะศึกษาเล่าเรียนท่านได้ผู้ปกครอง ก็ได้นำท่านไปฝากกับพระอธิการยัง เจ้าอาวาสวัดรางบัวสมัยก่อนไม่มีโรงเรียนต้องอาศัยวัดเรียน พระอาจารย์เจ้าอาวาสจึงได้สอนไปตามความรู้ที่มีอยู่ เมื่อมีความรู้พอสมควรแล้วจึงได้กลับไปอยู่บ้านเมื่ออายุครบอุปสมบทก็ได้อุปสมบทณพัทธสีมา วัดจำปา ุตำบลบ้านเกิด โดยมี
เจ้าอธิการเผือก เป็นพระอปัชฌาย์
พระอธิการยัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการทัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้อยู่กับพระอธิการยังณ วัดรางบัว เมื่อปี พ. ศ. 2429 ท่านเป็นผู้ที่มุ่งมั่นอยู่ในทางธรรมปฏิบัติและเพรียบพร้อมไปด้วย ศีลาธิคุณ เต็มอยู่ด้วยพรหมวิหารธรรม ต่อมาจึงได้รับเลือกให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2455 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดรางบัวเมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสแล้วท่านก็ได้บริหารงานจนวันนี้มีความเจริญขึ้นในอบรมสั่งสอนศิษย์และการศึกษาเป็นอย่างดีและทรงเข้าสอบสนามหลวงและสอบได้เป็นประจำตลอดมาไทยเมื่อปี พ.ศ. 2469 ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไเ้เห็นถึงคุณงามความดีของท่านจึงได้ตั้งให้เป็นพระครูใบฎีกาฐานานุกรมของท่าน ใน พ.ศ. 2479 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูประทวน ผู้อุปการะโรงเรียนวันที่ 1 มีนาคม 2482 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูวิทยานุโยค ต่อมาในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 ท่านก็ได้มรณภาพ ด้วยอายุ 76 ปีพรรษา 54 พระราชทานเพลิงเมื่อวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ. ศ. 2484 ท่านพระครูวิทยานุโยค(ผึ่ง) เป็นพระผู้น้อยถามคำตอบคำเป็นผู้เสียสละไม่ยินดีในลาภยศและไม่รู้จักคำว่าหิวเป็นตน้ว่าข้าวฉันก็ได้ไม่ฉันก็ได้โดยไม่รู้ว่าความหิวนั้นเป็นอย่างไรเวลาบ่ายโมงทุกวันถ้าไม่ติดนิมนต์ที่ใดท่านจะลงไปดายหญ้าที่ลานวัดเป็นประจำทุกวัน เมื่อเวลาเย็นพระตีระฆังสวดมนต์เย็นท่านก็จะขึ้นมาสวดมนต์นับว่าเป็นกิจวัตรประจำวันที่ท่านได้ปฏิบัติติดต่อมาจนมรณภาพท่านเป็นคนที่พูดจริงทำจริงเมื่อพูดไปแล้วไม่คืนคำแม้ว่าคนนั้นจะใหญ่โตขนาดไหนแม้แต่นักเลงในย่านนั้นก็กลัวเกรงท่านก็เพราะเป็นคนจริงดังกล่าวแล้ว ท่านเคยสร้างเหรียญเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ. ศ. 2482 เหรียญที่ท่านสร้างขึ้นมีลักษณะคล้ายเหรียญวัดหนัง มียันต์สี่ข้างหลังสร้างขึ้นประมาณ 1,000 เหรียญท่านเสกรูปเดียว โดยได้นำมาแจกในงานทำบุญเนื่องในงานฌาปนกิจศพ โยมแม่ของท่านและแจกในงานฉลองสมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานเป็นพระครูประโชติ เหรียญที่ท่านจะสร้างขึ้นในครั้งนี้หายากและราคาเช่าสูงก็ได้ปรากฏอภินิหารแก่ผู้ที่นำไปใช้ พระครูศิลป์เจ้าอาวาสองค์ 2 ได้สร้างเหรียญขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง เหมือนกันเพื่อนำเงินไปสร้างโบสถ์และรูปหล่อ เท่าตัวจริงของท่านขึ้นซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลาการเปรียญปัจจุบัน
อภินิหารวัตถุมงคลของท่าน
ในขณะที่ท่านพระครูวิทยานุโยคยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ไล่พระสังข์ ออกจากวัด ด้วยความผิดบางประการพระสังข์ลูกศิษย์ของ ท่านโกรธมาก จึงได้ไปเอาปืนลูกซองมาแล้วเที่ยวตามหาท่านพระครูวิทยานุโยคแต่ไม่พบ พบแต่พระตั้วและพระดวงจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงพระทั่ง 2 องค์ จนทั้งสองมรณภาพทั่งคู่ ว่าพระตั๊วะและพระดวงได้ไปฟ้องท่านพระครูจนตัวเองถูกไล่ออกจากวัด เมื่อพระสังข์ได้ยิงพระตั้วและพระดวงมรณภาพแล้วจึงจะหลบนี้จะออกจากวัด ขณะที่วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุนั้นได้พบกับท่านพระครูวิทยานุโยคนั่งอยู่บนกุฏิจึงได้ใช้ปืนยิงไป แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์พระสังยิงเท่าไหร่กระสุนก็ ไม่ออกอยู่นั่นเอง ด้วยความโมโหพระสังข์จึงหันกระบอกปืนไปยังพระศุก ซึ่งอยู่ในบริเวณนั้นด้วยปรากฏว่าลูกกระสุนออกถูกแขนพระศุกได้รับบาดเจ็บพระสังข์จึงหลบหนีไปต่อมาถูกจับได้และถูกประหารชีวิตในที่สุดร้อยตำรวจเอกบรรจงประยงค์ศร สารวัตรเขตภาษีเจริญสมัยนั้น ทราบข่าวว่าทางวัด มีเหรียญพระครูวิทยานุโยค ถึงได้ไปขอเรียนมาจากวัดแล้วให้ลูกน้องนำไปทดลองยิงดูปรากฏว่ากระสุนไม่ออกตามคำเล่าลือต่มาเมื่อมีคนทราบข่าวก็ไปหาเหรียญที่วัดกันจำนวนมากแต่ที่วัดเหรียญหมดไปนานแล้วผู้ที่มีอยู่แล้วก็ไม่อยากให้หลุดมือไปเพราะเป็นของหายากและราคาเช่าหาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะท่านไม่เป็นเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงตามที่กล่าวมาแลว
อ้างอิง จากหนังสืออภินิหารพระเครื่อง ปี 2517
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น