พระครูวิบูลย์ธรรมวาที (หลวงพ่ออ้วน)
วัดสุวรรณอินทร์ทอง (บ้านหนองตาด) ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
(เทพเจ้าของความเมตตา แห่งเมืองแก)พระครูวิบูลย์ธรรมวาทีหรือหลวงพ่ออ้วนแห่ง วัดสุวรรณอินทร์ทอง ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
เทพเจ้าแห่งความเมตตาอุดมโช คลาภ
พระภิกษุที่งดงามไปด้วย วัตรปฏิปทาศีลจริยวัตรและจร
บุญบารมี คุณวิเศษ มหิทธานุภาพและบุญญาธิการปร
สำหรับญาติโยมที่ยังไม่ได้ส
ต่อเมื่อได้มาพบปะตัวท่านจร
ใช่แล้วครับ”ท่าน” ที่กล่าวถึงนั่นก็คือ “หลวงพอพระครูวิบูลย์ธรรมวา
และ ณ วันนี้ผู้เขียนจักเข้าไปกรา
ชาติภูมิอุบัตินักปราชญ์แห่ งฌาณ
หลวงพ่ออ้วนท่านพูดจา ที่เพียบพร้อมไปด้วยองค์คุณ
ท่านถือกำเนิดมาเมื่อ วันพุธ เวลา 20 นาฬิกา แรม 10 ค่ำเดือน 10 ปีจอ พ.. 2465 หมู่บ้านหนองแต้ (บ้านเก่าของหมู่บ้านหนองตา ด) ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์นั่นเอง
โยมบิดาชื่อนายทา มีทรัพย์ โยมมารดาชื่อนางปา มีทรัพย์ มีญาติพี่น้อง 6 คน ชาย 2 คนหญิง 4 คน หลวงพ่ออ้วนท่านได้ชื่อว่าเ ป็น “ภัพพบุคคล” มาแต่กำเนิดเพราะกระแสนิสัย ของท่านโนมนำไปในทางกุศล เชื่อกรรมทำ ดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มาโดยตลอดนับแต่อายุจำความไ ด้นู่นแหละซึ่งอุบาสิกา และโยมอุปัฏฐาก ประจำวัดสุวรรณอินทองหลวงตา ด ท่านหนึ่งคือ คุณแม่มาลา สุวรรณมาลา บุคคลร่วมสมัยกับหลวงพ่ออาย ุปัจจุบัน 73 ปีเป็นผู้ยืนยันเรื่องนี้ได ้อย่างดีหลวงพ่ออ้วนท่านจบก ารศึกษาภาคบังคับแล้วจิตใจข องท่านก็จดจ่ออยู่แต่สมณะเพ ศ มองเห็นเพศบรรพชิตภายใต้ร่ม ผ้ากาสาวพัสตร์งดงามจับตาเป ็นที่สุดและแล้วความปรารถนา ของท่านก็ถึงจุดสุกงอม หลังจากได้ฟังเทศน์ฟังธรรมจ ากสมณเพศรูปหนึ่งมีอรรถและพ ยัญชนะแปลกลึกซึ่ง เกิดความสว่างขึ้นในดวงปัญญ า
“สาธุชนทั้งหลายไม่ควรประมา ท”
“สาธุชนทั้งหลายไม่ควรประมา ท” “ในการที่พวกเราได้มาเกิดเป ็นมนุษยชาติเป็นคติอันสมบูร ณ์ไปด้วยของวิเศษต่างๆในอริ ยทรัพย์เป็นเครื่องประดับซึ ่งสาธุชนทั้งหลายพากั้นปราร ถนาอยู่แล้วองค์พระสัมมาสัม พุทธเจ้าทรงประทานชี้ขุมทรั พย์ให้
เมื่อมรดกอันล้ำค่าของพุทธอ งค์สามารถและเอาซึ่งของวิเศ ษทั้งหลาย มีมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติเป็นต้น อันมนุษย์ในโลกนี้ปรารถนาอย ู่แต่ยังไม่ถึงเห็นเวลานี้ม รดกนั้นได้ตกเข้ามาถึงมือขอ งพวกเราแล้วตามความประสงค์ไ ฉนเล่าพวกเราถึงไม่ยอมรับแล ะใช้จ่ายให้เป็นประโยชน์แก่ เราบ้างเลย
สาธุชนทั้งหลายจงพากันรีบ จงพากันรีบชม จงพากันรีบใช้ให้เป็นประโยช น์แก่ตนเสีย
โยมบิดาชื่อนายทา มีทรัพย์ โยมมารดาชื่อนางปา มีทรัพย์ มีญาติพี่น้อง 6 คน ชาย 2 คนหญิง 4 คน หลวงพ่ออ้วนท่านได้ชื่อว่าเ
“สาธุชนทั้งหลายไม่ควรประมา
“สาธุชนทั้งหลายไม่ควรประมา
เมื่อมรดกอันล้ำค่าของพุทธอ
สาธุชนทั้งหลายจงพากันรีบ จงพากันรีบชม จงพากันรีบใช้ให้เป็นประโยช
บรรพชาและอุปสมบท”เนื้อนาบุ ญของโลก”
ผู้เขียนได้กราบเรียนนมัสกา
กิจดังกล่าวของหลวงพ่ออ้วนท
ต่างได้รับคนเมตตาหลวงอุดมโ ชคมหาลาภ สุขสมหวังตามผลบุญประจำตัวก ันทุกคน
เนื่องจากได้รับแสงสว่าง การฟังเทศน์ ฟังธรรม ครั้งนั้นท่านก็เข้ารับการบ รรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสว่างอุดมท่าศิลา บ้านศิลา ตำบลเมืองแก อยู่ห่างบ้านหนองตาดไปทางทิ ศเหนือประมาณ 2 กิโล บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 214 มี
เนื่องจากได้รับแสงสว่าง การฟังเทศน์ ฟังธรรม ครั้งนั้นท่านก็เข้ารับการบ
พระอาจารย์หลวงพ่อศรีธาตุ เป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์
แล้ วมาประจำอยู่ วัดสุวรรณอินทร์ทองกับ
หลวงพ่อหว่าง กันตสีโล จนศึกษาท่องสังวัธยายบทสวดเ จ็ดตำนาน สิบสองตำนานได้คล่องแคล่วแล ะชำนาญ
หลวงพ่อท่านบอกว่ากิจวัตรขอ งท่านที่ปฏิบัตจนกลายเป็นกร ะแสนิสัยตั้งแต่ครั้งยังเป็ นสามเณรมาจนถึงปัจจุบันนี้แ ละตลอดไปคือต้องสวดมนต์เจ็ด ตำนานสิบสองตำนานเป็นประจำท ุกวันไม่เคยขาด
เครื่องขยายต่อแก้ความสงสัย ที่ว่าเมื่อต้องสวดได้แล้วจ ะต้องมาสวดอีกทำไมจนกลายเป็ นกิจวัตรผู้คนใดเมื่อพืชขาด ทุนมาเจอหน้าเลยเจ็ดตำนานสิ บสองตำนานนี่แหละ คือบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในส ากลโลกสวดมนต์ยิ่งบ่อยเข้าเ ท่าไหร่อำนาจพลานุภาพย่อมบั งเกิดมีขึ้นมากเท่านั้นเป็น เงาตามตัวได้ เมื่อก่อนผู้เขียนเห็นภิกษุ สามเณรสวดพุทธมนต์เจ็ดตำนาน และสิบสองตำนานกันเฉพาะเทศก าลเข้าพรรษา ต่อมาอายุหลวงพ่อท่านครบอุป สมบทจึงเข้ารับการอุปสมบทโด ยมี
หลวงพ่อหว่าง กันตสีโล จนศึกษาท่องสังวัธยายบทสวดเ
หลวงพ่อท่านบอกว่ากิจวัตรขอ
เครื่องขยายต่อแก้ความสงสัย
หลวงพ่อศรีธาตุ หรือ พระครูศรีสัทธารมณ์เป็นพระอ ุปัชฌาย์
พระอาจารย์ม้วน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และพระครูพิทักษ์บุญญากรณ์ (พระอาจารย์มหาสิงห์ )เจ้าคณะอำเภอท่าตูมสมัยนั้ น เป็นพระอนุสาวนาจารย์
และพระครูพิทักษ์บุญญากรณ์ (พระอาจารย์มหาสิงห์ )เจ้าคณะอำเภอท่าตูมสมัยนั้
ณ พระอุโบสถวัดสว่างอุดมท่าศิ ลา บ้านท่าศิลานั่นเองซึ่งเป็น ปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ แล้วก็ยังคงประจำอยู่ในวัดส ุวรรณอินทองเหมือนเดิม
ปี พ.ศ. 2488 หลวงพ่อท่านได้วิเวกธรรมธุด งค์จาริกไปประจำอยู่จังหวัด ขอนแก่น ณ วัดม่วงศรี ตำบลพลับ อำเภอเมืองได้ศึกษาการเทศน์ กาปฐกถาธรรมและไวยากรณ์บาลี จนแตกฉาน
ปี 2490 ได้วิเวกธรรมมาอยู่กับพระอา จารย์มหาทองเย็น (เปรียญธรรม 6) ณ วัดบ้านหนองแวง ตำบลดอนฉิม อำเภอพล จังหวัด ขอนแก่น ได้เรียนแปลพระธรรมบทและอุบ าย( วสี ) การเข้า การทรงอยู่ การออกซึ่ง “ฌาณ” พระกรรมฐานกับอาจารย์จนคล่อ งและชำนาญ
พ.ศ.2492 หลวงพ่อท่านได้วิเวกธรรมภาค ปฏิบัติที่ ยึดเขาป่าดงดิบรกชัฏในเขตพื ้นที่ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ซึ่งมีลักษณะที่เหมาะเป็นสั ปปายะในการปฏิบัตธรรมยิ่งโด ยพำนักอยู่กับพระอาจารย์อภิ ญญาาภี วัดโฆสิตาราม พระอาจารย์ได้ให้คำแนะนำว่า “เมื่อมีจิตใจพัฒนามีศรัทธา เลื่อมใสในคำสอนแห่งองค์สมเ ด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้ าอย่างมั่นคงหนักแน่นมีสันด านเบาบางคลายจากความเขลา โมหะ กิเลส ก็จะมีอานิสงฆ์ส่งผลให้บรรล ุฌานแก่บุคคลผู้บำเพ็ญสมถกร รมฐานและได้บรรลุมรรคผลแก่บ ุคคลผู้บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐ านภาวนา หลวงพ่ออ้วนท่านได้รับคำแนะ นำให้ปฏิบติสมถกรรมฐานเอาอั ปปมัญญา 4 ยกขึ้นเป็นอารมณ์กรรมฐานปฏิ บัติเมตตาอัปปมัญญา กรุณาปมัญญา มิทิตาอัปปมัญญาตามลำดับก็จ ะทำใหบรรลุ ถึงได้ฌานที่ 4 (จตุถฌาณ) หากไปถึงอุเบกขาอัปปมัญญาก็ มีอำนาจส่งผลให้ผู้บําเพ็ญบ รรลุได้ฌานสมาบัติ 8 หลวงพ่อท่านได้ปฏิบัติด้วยค วามมีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา อย่างจริงจังและเข้มงวดตลอด ปีกว่าจนเห็นว่า ชำนาญ พอเอาตัวรอดได้จึงได้จึงร่ำ ลา พระอาจารย์ออกไปวิเวกต่อไป ขณะจารึกเดินทางอยู่ท่านก็ไ ด้เจอพญากระทิงยักษ์วิ่งพรว ดพราดมาแต่ไกลตรงแน่วดิ่งมา ยังเส้นทางที่ท่านกำลังดำเน ินอยู่จากการที่ได้ฝึกจิตจน ชินและคลองสติและสัมปชัญญะค ือครองอยู่กับตัวตลอดเวลาแล ้วยกเอาเมตตาอัปปมัญญาขึ้นไ ปรวมกับพลังของสมาธิฝ่ายพญา กระทิงก็โลดแล่นเกือบชนถึงต ัวท่านห่างกันประมาณ 4-5 วา เห็นจะได้ท่านจึงได้ยกมือข้ างขวาขึ้นเพียงเท่านั้นช่าง มหัศจรรย์อะไรเช่นนี้กระทิง ได้หยุดชะงักทันใดแล้วก็วิ่ งเตลิดไปครั้งหนึ่งเสียไกลล ิบ
แล้วท่านจารึกมาหาวิเวกธรรม ณ วัดทุ่งจันทร์ ตำบลหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ฝึกฌาณจนเกิดอภิญญา ได้เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐา นสอนนักธรรมและสอนแปลพระธรร มบทตลอด 2 ปี 15 วัน ณ วัดดังกล่าวบุญบารมีของหลวง พ่อทั้งในความ เป็นพระนักเทศน์ พระนักปฏิบัติ พระนักโหราศาสตร์ พระนักน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธ ิ์ ก็เริ่มมีชื่อขจรขจายในหมู่ ญาติโยมกันอย่างกว้างขวาง
คุณพี่แดง มีทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหนองตาเ ให้ข้อมูลต่อผูเขียนว่าปี พ.ศ.2496 ญาติโยมหนองตาดพากันไปกราบน มัสการนิมนต์หลวงพ่ออ้วนมาป ระจำเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณ อินทร์ทองตั้งแต่วันนั้นเป็ นต้นมาหลวงพ่ออ้วนท่านก็เป็ นหลักนำใจด้านจิตวิญญาณของญ าติโยมทั้งใกล้และไกลในถิ่น มาตุภูมิอย่างสมกับเป็นสมณศ ากยะบุตรโดยแท้จริง เฉลี่ยแล้วญาติโยมขึ้นหานมั สการท่านตกวันละ 50-60 คน บางกลุ่มก็ขึ้นมาเพื่อขออุต มโชคมหาลาภกัน แล้วเอาไปตีเป็นหวยรวยเบอร์ กัน รายการนี้นับว่าชื่อเสียงขอ งหลวงพ่อท่านกระฉ่อนที่สุดใ นสาระของความแม่นฉมัง
บางกลุ่มก็ขึ้นหาเพื่อกระทำ พิธีเลิกเหล้าเพราะ ทำกับหลวงพ่อได้ผลชะงัดอย่า งบริสุทธิ์สะอาดที่สุด
ปี พ.ศ. 2488 หลวงพ่อท่านได้วิเวกธรรมธุด
ปี 2490 ได้วิเวกธรรมมาอยู่กับพระอา
กระทิงยักษ์คร่าชีวิตที่ “กะปง”
พ.ศ.2492 หลวงพ่อท่านได้วิเวกธรรมภาค
แล้วท่านจารึกมาหาวิเวกธรรม
ดอกบุญกุศลบานสะพรั่งณวัดสุ วรรณอินทร์ทอง
คุณพี่แดง มีทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหนองตาเ
บางกลุ่มก็ขึ้นหาเพื่อกระทำ
บางกลุ่มเอาสิ่งของมาให้ท่า นเจิมปรากฏว่าศักดิ์สิทธิ์อ ย่างแทบไม่น่าเชื่อและยิ่งเ ป็นยานพาหนะด้วยแล้วแคล้วคล าดอัศจรรย์ภยันตรายใดๆ พูดถึงน้ำมนต์ของท่านและก็น ับว่ามีความพิเศษเอนกอนันต์ สามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายน านัปการ ได้เป็นอย่างดีครับขอให้ท่า นผู้อ่านได้ขึ้นหาท่านผลวงพ ่ออ้วนด้วยตัวเองแล้วจะประจ ักษ์ว่าที่ผู้เขียน เขียนอยู่นี้ไม่ได้เกินเลยไ ปจากความจริงแม้แต่น้อย
เหรียญรุ่นแรก ปี2516
เหรียญรุ่นแรกพระครูวิบูลธร รมวาที (หลวงพ่ออ้วน) วัดสุวรรณอินทร์ทอง (บ้านหนองตาด) อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
สร้างในวาระฉลองพัดยศ สร้างขึ้นในเดือนกุมภาพันธุ ์ ปี2516 สร้างประมาณ 2,500 เหรียญ
สร้างพร้อมเหรียญรุ่นแรกพระ ครูสุวรรณปัญญาจารย์ (หลวงพ่อแวง สุวณณปัญโญ ) วัดบ้านกระโพ
ทำพิธีพุทธาภิเษกโดยพระเถรา จารย์ ดังนี้
1.หลวงพ่อทุม ปริสุทโธ วัดใหญ่จอมพระ อ.จอมพระ
2.พระครูบุญสิริโสภณ (หลวงพ่อบุญศรี ปารคามี) วัดธาตุ อ.สนม
3.พระครูถาวรธรรมรัตน์ (หลวงพ่อเที่ยง ) วัดเลี่ยบ (บ้านไผ่ ) อ.รัตนบุรี
4.พระครูประสาธน์ขันธคุณ (หลวงพ่อมุม อินทปัญโญ) วัดปราสาทเยอร์ อ.ขุขันธุ์
5.หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง
6.พระครูอุดมวรเวท (หลวงปู่เจียม อติสโย) วัดอินทราสุการาม (หนองยาว) อ.สังขะ
7.พระครูวิบูลย์ธรรมวาที (หลวงพ่ออ้วน ) วัดสุวรรณอินทอง (บ้านหนองตาด ) อ.ท่าตูม
8.พระครูสุวรรณปัญญาจารย์ (หลวงพ่อแวง สุวณณปัญโญ) วัดบ้านกระโพ อ.ท่าตูม
วัตถุมงคลของท่าน เป็นที่ศรัทธาของประชาชนชาว ส่วนมาก เพราะท่านเองก็เป็นครูบาอาจ ารย์ของชาวส่วย
เด่นด้าน มหาอุตม์ แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม ค้าขายดีนักแล
ปัจจุบันหายากพอสมควร ราคาเล่นหาก็อยู่ที่หลัก ร้อยปลาย ถึงพัน ต้นๆครับ
***อ้างอิงจากหนังสือประวัต ิ พระครูวิบูลย์ธรรมวาที (หลวงพ่ออ้วน) วัดสุวรรณอินทอง(บ้านหนองตา ด) อ.ท่าตูม
ขอบพระคุณสาระดีเป็นท่วมท้นสำหรับผมคนหนึ่งครับ..ท่านหลวงพ่อพระครูอ้วนเป็นพระอุปัชฌาย์ของกระผม ผมได้บรรพชากับท่านเมื่อปี2515ที่วัดบ้านหนองตาด แล้วไปอยู่ที่วัดบึงแก บ้านเมืองแก ต.เมืองแก ท่าตูม สุรินทร์ ...ตามหาประวัติท่านมานานเพิ่งพบ...เหรียญรุ่นนี้ผมมีแต่ก่อน2เหรียญ ไปได้ที่ กทม.สะพานพระโขนงสภาพสึกอีก1เหรียญปัจจุบันมีเก็บไว้บูชาอย่างดี1เหรียญสภาพเก่าเก็บรมดำเดิม มีจารย์เดิมหลวงพ่อด้วยครับ บุญคุณงามความดีทั้งหลายที่กระผมได้ทำมาทั้งหมดผมขออุทิศแด่หลวงพ่อเทอญ
ตอบลบ